Search
Back to All Blog Posts

รู้หรือไม่? น้ำฝนทำร้ายสีรถได้

     ฝนที่ตกลงมาโดนสีรถได้นำพาสิ่งสกปรกที่มีส่วนทำให้รถเกิดคราบฝั่งแน่น น้ำฝนมีฤทธิ์เป็นกรด จึงทำให้สีรถหม่นหมองไม่มีความเงางามเนื่องจากโดนกรดที่อยู่ในน้ำฝนกัดกร่อน และถ้าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไปโดยที่ไม่หมั่นดูแลรักษาความสะอาด ก็อาจทำให้สีรถพังในภายหลัง!

เพราะอะไรฝนถึงสามารถทำให้สีรถพังได้!

ทุกท่านคงจะเคยได้ยินคำว่า “ฝนกรด” แค่ชื่อก็ดูน่ากลัวแล้วล่ะครับ แต่จริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่มีน้ำกรดตกมาลงจากฟ้า ฝนกรด (Acid Rain) ก็คือปรากฏการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงค่า pH หรือค่าความเป็น กรด-ด่าง ของน้ำฝนตามธรรมชาติ โดยปกติแล้ว น้ำฝนมีสถานะเป็นกรดอ่อนๆ โดยมีค่า pH อยู่ที่ประมาณ 5.6 แต่ด้วยมลพิษทางอากาศมาเพิ่มความเป็นกรดของน้ำฝน จึงทำให้น้ำฝนอาจมีค่า pH อยู่ในช่วง 4.2 ถึง 4.4 เลยทีเดียวและเมื่อฝนกรดตกลงมา จะก่อให้เกิดความเสียหาย และถ้าหากตกลงมาใส่สิ่งก่อสร้างที่ทำจากเหล็ก หินปูน หรือหินอ่อน ก็สามารถทำลายโครงสร้างและทำให้เกิดการผุกร่อนได้นั่นเอง!

ควรล้างรถขณะฝนตกหรือไม่?

ฝนที่ตกลงมาก็มีประโยชน์เหมือนกันนะครับ ถ้าวันไหนฝนตกไม่หนักมากและคุณคิดจะล้างรถพอดี น้ำฝนจะช่วยทุ่นแรงและประหยัดเวลาล้างรถของคุณได้มากทีเดียว (แต่ต้องแน่ใจว่าคุณไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงจะเกิดฝนกรดAcid Rain ) โดยก่อนที่จะลงแชมพูล้างรถ คุณสามารถนำรถไปล้างด้านนอกบ้านเพื่อให้น้ำฝนช่วยชะล้างฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกออกไปบางส่วน แล้วค่อยลงแชมพูล้างรถ>> ทริคในการล้างรถขณะฝนตก<< น้ำฝนที่ตกลงมาในช่วงแรกอาจยังไม่ปลอดภัยสำหรับรถของคุณ ควรรอสัก 3-5 นาที ให้น้ำฝนช่วงแรกชะล้างสิ่งสกปรกในอากาศก่อน ซึ่งน้ำฝนช่วงหลังจากนั้นจะเป็นน้ำที่ค่อนข้างสะอาดตามธรรมชาติและไม่ค่อยมีแร่ธาตุปนเปื้อนมากนักสามารถใช้เป็นน้ำล้างรถรอบแรกก่อนได้ เมื่อลงแชมพูและถูจนสะอาดจนทั่วทั้งคันแล้ว ควรล้างด้วยน้ำสะอาดอีกรอบ ไม่อย่างนั้นน้ำฝนกรดจะระเหยแห้งกลายเป็นคราบหยดน้ำให้เห็นประปรายทั่วรถทั้งคัน

ข้อดีอีกอย่างของการล้างรถในขณะฝนตก ก็คือ รถของคุณจะไม่เกิดคราบจากการระเหยแห้งของน้ำที่นำมาใช้ล้าง ซึ่งต่างจากการล้างในวันที่อากาศร้อนหรือแสงแดดจัดๆ เพราะถ้าคุณใช้ผ้าซับน้ำออกไม่ทันหลังล้างเสร็จสิ่งที่คุณควรควรระวังและหลีกเลี่ยง คือ การล้างรถในช่วงเวลาที่ฝนตกฟ้าคะนองหรือมีลมพัดแรง เพราะอาจเกิดอันตรายได้

 

วิธีป้องกันและแก้ไข..

-           ล้างทำความสะอาดรถบ่อยๆยิ่งฝนตกยิ่งต้องล้างรถอย่าปล่อยให้เกิดคราบฝังแน่น!

-           เลี่ยงการล้างรถตอนมืดค่ำเพื่อป้องกันการเกิดสนิมเพราะตอนมืดค่ำเราอาจจะเช็ดแห้งไม่ได้ทั่วอาจส่งผลให้เกิดสนิมกับตัวถังรถได้

-           ไม่จอดรถใต้ต้นไม้ป้องกันยาง เกสร ดอก หรือผลหล่นใส่รถ เพราะหน้าฝน ลมแรง อาจพัดสิ่งต่างๆจากต้นไม้ ลงมาหล่นสร้างความเสียหายใส่รถที่คุณรักได้ง่ายๆ

-           ห้ามใช้ผ้าแห้งเช็ดรถทันทีควรล้างด้วยน้ำหรือฉีดไล่คราบต่างๆที่เกาะตัวถังออกก่อนจึงเช็ดแห้งตามเพราะอาจมีคราบฝุ่นที่ตกค้างขูดขีดสร้างความเสียหายแก่ตัวถังรถ

-           เลี่ยงการจอดรถตากแดดเพราะถ้ามีครบน้ำฝนแห้งกรังติดตัวถังรถการจอรถตากแดดจะทำให้คราบแห้งติดฝั่งแน่นและทำร้ายสีรถหนักเข้าไปอีก

-          การเคลือบสีรถจะทำให้รถสวยเงางามอยู่เสมออีกทั้งยังช่วยป้องกันคราบน้ำฝนและช่วยให้ล้างทำความสะอาดรถได้ง่ายขึ้นอีกด้วย 

ขั้นตอนการล้างรถอย่างถูกวิธีง่ายๆ

ล้างรถไม่ว่าจะ ใครๆ ก็ล้างได้ การล้างรถถือว่าเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการดูแลรักษาถนอมสีรถ ช่วยให้รถดูสะอาด แต่ทั้งนี้จะต้องรู้จัก วิธีล้างรถที่ถูกต้องด้วยเช่นกัน เพราะถ้าเราล้างรถไม่ถูกวิธีการก็จะทำให้รถไม่สะอาด และยังเป็นอันตรายต่อสีรถยนต์อีกด้วย  แต่จะล้างอย่างไรให้ถูกวิธีและไม่มีคราบไม่พึงประสงค์เป็นของแถมมาด้วยต้องล้างให้ถูกวิธีดังนี้

เตรียมอุปกรณ์ล้างรถให้พร้อมก่อนลงมือล้างรถ

ก่อนอื่นเริ่มจากจอดรถในที่ร่ม ไม่ควรล้างรถกลางแดด เพราะจะทำให้พื้นผิวรถยนต์ร้อนและแห้งเร็ว ส่งผลให้เกิดคราบน้ำบนพื้นผิวและทำให้ล้างทำความสะอาดยากขึ้น เสียเวลาในการล้างรถเพิ่มขึ้น

 

- เตรียมแชมพูหรือน้ำยาล้างรถ

- ถังน้ำ 2 ใบ สำหรับใส่น้ำยาล้างรถและซักผ้าหรือล้างฟองน้ำ

- ฟองน้ำ 2 อัน สำหรับล้างพื้นผิวรถยนต์และล้างล้อรถยนต์

- แปรงพลาสติกสำหรับขัดยางรถ กรณีที่ยางรถยนต์สกปรกมาก

- ผ้าไมโครไฟเบอร์อย่างน้อย 3 ผืน

- ผ้าเช็ดพื้นผิวรถ ไม่ใช้ปนกับผ้าเช็ดล้อรถ เพราะถ้าใช้ผ้าเช็ดล้อแล้วมาเช็ดผิวรถ อาจจะเกิดรอยคล้ายขนแมวที่พื้นผิวรถยนต์ได้

- ผสมน้ำยาล้างรถกับน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสม และเตรียมถังน้ำเปล่าสำหรับล้างฟองน้ำให้พร้อม

 

ฉีดน้ำล้างคราบสกปรก

ฉีดน้ำเพื่อขจัดคราบสกปรก ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกที่อยู่บนพื้นผิวรถยนต์อ่อนตัวลง โดยฉีดน้ำทั้งคันไล่จากบนหลังคารถ ลงมาด้านหน้าและด้านข้างของรถ และด้านท้ายรถตามลำดับด้วยน้ำเย็น เพื่อเป็นการชะล้างคราบสกปรกที่ฝังแน่นให้อ่อนตัวลง

 

ผสมน้ำอุ่นกับน้ำยาล้างรถ

ควรผสมในอัตราส่วนตามคำแนะนำที่ระบุไว้บนฉลากของผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ เนื่องจากน้ำยาล้างรถแต่ละยี่ห้อมีอัตราส่วนการผสมไม่เท่ากัน ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาล้างจาน หรือ ผงซักฟอกอย่างเด็ดขาด เพราะจะเป็นการทำลายสีรถให้ซีดหมองในระยะยาว

 

ล้างส่วนล้อรถยนต์ก่อน

ล้างส่วนล้อรถยนต์ก่อน เพราะเป็นส่วนที่สกปรกที่สุด เพื่อที่สิ่งสกปรกจากล้อจะได้ไม่กระเด็นไปโดนส่วนอื่นของรถ หากล้างล้อรถยนต์เป็นลำดับสุดท้าย ขณะที่กำลังล้างล้อรถยนต์ พื้นผิวรถอาจจะแห้งก่อนและทำให้เกิดคราบน้ำบนพื้นผิวรถได้

 

ล้างจากหลังคาลงด้านข้าง

จากนั้นล้างรถจากบนหลังคารถลงมาด้านข้างของรถ ก่อนจะเริ่มขัดพื้นผิวรถ ให้แช่ผ้าหรือฟองน้ำล้างรถในน้ำยาที่ผสมไว้ แล้วค่อยนำมาขัดทำความสะอาดพื้นผิว ไม่ควรออกแรงขัดมากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนหรือทำให้สีรถยนต์เสียหายได้

 

ล้างส่วนล้อรถยนต์ก่อน

ล้างสิ่งสกปรกออกจากฟองน้ำบ่อยๆ เพราะอาจมีฝุ่นละอองหรือเม็ดทรายเล็กๆ ติดอยู่ตามตามรูพรุนของฟองน้ำ แต่ถ้าใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ โอกาสที่จะเกิดรอยขีดข่วนหรือรอยคล้ายขนแมวบนผิวรถจะน้อยกว่า ล้างช่วงล่างเป็นลำดับสุดท้าย โดยใช้ฟองน้ำแยกกันต่างหาก ไม่ใช้ปนกันกับส่วนอื่นๆ นะครับ การล้างรถให้สะอาดควรจะต้องแยกฟองน้ำล้างรถตามส่วนต่าง ๆ อย่างเช่น ฟองน้ำอันแรกใช้ทำความสะอาดหลังคารถ ฝากระโปรงหน้า ฝากระโปรงหลัง ผ้าสำลีใช้ทำความสะอาดกระจกรถและขอบต่าง ๆ ฟองน้ำอีกอันใช้ล้างล้อรถ และส่วนที่มีคราบสกปรกมากๆ

 

ล้างน้ำเปล่าทันที

หลังจากล้างน้ำยาแต่ละส่วนเสร็จ ให้ฉีดน้ำล้างน้ำยาล้างรถออกให้หมด ไม่ควรปล่อยให้น้ำยาล้างรถแห้งบนพื้นผิวรถ เพราะจะทำให้เกิดคราบ เมื่อล้างเสร็จทั้งคันแล้ว ให้ล้างน้ำเปล่าซ้ำอีกรอบ

 

เช็ดรถให้แห้งทันทีด้วยผ้าสะอาด

เช็ดรถให้แห้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์เพื่อป้องกันการเกิดสนิมและการเกิดคราบน้ำ โดยเช็ดไล่จากด้านบนหลังคารถยนต์ลงมาด้านล่าง และเช็ดล้อเป็นลำดับสุดท้าย ขณะเช็ดควรเปลี่ยนผ้าหลายๆ ผืน เพื่อลดโอกาสเกิดรอยขีดข่วน

สิ่งที่เราไม่ควรทำอย่างยิ่งสำหรับการล้างรถด้วยตัวเอง คือ การล้างรถกลางแจ้งขณะที่มีแสงแดดจัดๆ เนื่องจากจะทำให้น้ำแห้งเร็วจนเช็ดไม่ทันแล้วเกิดเป็นคราบน้ำเกาะบริเวณผิวสีรถยนต์ได้ อีกทั้งไม่ควรล้างรถช่วงเย็นหรือกลางคืน เพราะหากเราเช็ดทำความสะอาดไม่แห้งสนิท จะก่อให้เกิดสนิมขึ้นในจุดนั้นได้ และไม่ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดแทนการล้างรถ เพื่อป้องกันเศษฝุ่นหรือเม็ดทรายที่ติดผ้าที่เราอาจจะมองไม่เห็นก็จะทำให้เกิดรอบขีดข่วน และรวมทั้งไม่ควรใช้ไม้ขนไก่ในการปัดฝุ่นด้วยเช่นกัน เนื่องจากจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้เช่นกันครับ

 

ถ้าไม่ล้างรถนานๆ จะเป็นยังไง

การปล่อยรถโดนฝนจนหยุด แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งเอง จะทำให้เกิดคราบน้ำฝังแน่น จนเป็นรอยด่างดวงเกิดขึ้นทั้งบนกระจก ตัวถัง ล้อแม็กซ์ ชิ้นส่วนโครเมียมต่างๆ แม้อาจจะไม่เกิดภายในวันเดียว แต่ก็จะเกิดการสะสมไปเรื่อยๆ จากรอยด่างกลายเป็นคราบตะกรัน เด่นชัดจนต้องเสียเงินขัดเคลือบกันยกใหญ่

 

อีกหนึ่งผลร้ายหากไม่ล้างรถ นั่นคือการสะสมของฝุ่นโคลนตามซอกหลืบตัวถัง เป็นแหล่งสะสมความชื้น และกัดกินเนื้อสีเป็นคราบดำ อันเป็นที่มาของการเกิดสนิมในเวลาต่อมาด้วยครับ

 

เพิ่มความสวยเงางามให้รถของคุณด้วยการขัดเงารถ

หลังจากล้างรถเสร็จ ถ้าคุณยังพอมีเวลาหลังจากล้างและเช็ดรถให้แห้งแล้ว คุณสามารถลงแว็กซ์ด้วยตนเองเพื่อเพิ่มความเงางามและปกป้องสีของรถคันโปรดของคุณ เพราะนี่คือวิธีดูแลรถเคลือบแก้วที่จะช่วยเพิ่มความเงางามให้กับรถ การเคลือบแว๊กซ์ทับอีกชั้นหนึ่งจะช่วยให้รถเงาขึ้นกว่าเดิมและยังช่วยป้องกันไม่ให้สีของรถซีดจางหลังจากที่โดนแดดแรงเป็นประจำ โดยทำตามได้ง่ายๆ ดังนี้เลยครับ

 

ควรใช้ฟองน้ำสำหรับลงแว็กซ์เคลือบสีรถโดยเฉพาะ เพราะเนื้อฟองน้ำประเภทนี้จะมีความละเอียดสูง เนื้อนุ่ม ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วน

ในการเคลือบขัดเงา ให้ลงแว็กซ์ทีละส่วนของตัวรถ ลงเป็นวงกลมคล้ายก้นหอย วนไปเรื่อยๆ จนครบทุกส่วนของพื้นผิวรถ

เมื่อลงแว็กซ์วนคล้ายก้นหอยจนทั่วทั้งคันแล้ว ให้ปล่อยทิ้งไว้จนขึ้นเป็นฝ้าประมาณ 10-15 นาที

จากนั้นให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดแว็กซ์ออก แล้วขัดวนเบาๆ จนขึ้นเงา โดยค่อยๆ ทำไปทีละส่วน  

 

ข้อแนะนำในการลงแว็กซ์

ไม่ควรลงแว็กซ์ เคลือบสีรถในขณะที่เครื่องยนต์หรือตัวรถร้อน หรือมีอุณหภูมิที่สูงอยู่

ไม่ควรลงแว็กซ์กลางแสงแดด เพราะจะทำให้เนื้อแว็กซ์เซ็ตตัวเร็วเกินไป โดยไม่ทันได้ทำปฏิกิริยากับพื้นผิว

แต่อย่างไรก็ตาม มีแว็กซ์บางยี่ห้อที่สามารถใช้เคลือบสีรถขณะอยู่กลางแสงแดดได้ เนื่องจากผู้ผลิตได้พัฒนาคุณสมบัติของเนื้อแว็กซ์มาอย่างดีแล้ว แต่ราคาค่อนข้างแพง ซึ่งคุณก็ไม่จำเป็นต้องลงทุนขนาดนั้น หากต้องลงแว๊กซ์เองเลี่ยงมาทำในที่ร่มจะดีกว่าครับ

 

การดูแลรถและสีรถให้ดูใหม่อยู่เสมอ เป็นเรื่องที่คนรักรถทุกท่านต้องให้ความใส่ใจไม่แพ้กับส่วนอื่นๆ ของรถเลยล่ะครับ เราควรหมั่นดูแลให้ดูดีเหมือนใหม่ นอกจากรถจะดูสะอาดเอี่ยมอ่องเหมือนใหม่ตลอดเวลาแล้ว ยังส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับคนขับด้วยเช่นกันนะครับ สำหรับวิธีดูแลสีรถที่ทาง G2C นำมาฝากทุกท่าน เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยถนอมสีรถท่านให้สดใส เงางาม เหมือนรถใหม่ป้ายแดงไปอีกนานทุกท่านสามารถนำเคล็ดลับดีๆ ที่เรานำมาฝากไปใช้ได้แน่นอนครับ

G2C Glass Coating Club By Threebond
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

เพิ่มเพื่อน

Line ID: @g2cbythreebond
Facebook: facebook.com/glasscoatingclub
Instragram: glasscoatingclub

เวลาให้บริการ ทุกวัน 08.00-18.00น

Comments
Write a Comment Close Comment Form