G2C เป็นแบรนด์ศูนย์ดูแลความงามรถยนต์ ภายใต้ลิขสิทธิ์ทรีบอนด์ (ThreeBond) ในประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านผลิตภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมการประกอบรถยนต์และผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์เคลือบสีกึ่งถาวร (เคลือบแก้ว) ก็ยังเป็นสินค้าที่คิดค้นวิจัย และพัฒนามานานกว่า 80 ปี โดยศูนย์วิจัย (R&D Center) ของ ThreeBond ประเทศญี่ปุ่น

เรียกได้ว่า G2C by ThreeBond เป็นศูนย์เคลือบแก้วเพียงแห่งเดียวใน ประเทศไทยที่เป็นผู้ค้นคว้า วิจัย ผลิต และนำเข้าผลิตภัณฑ์และน้ำยาเคลือบสี รถยนต์กึ่งถาวร (เคลือบแก้ว) จากโรงงานในประเทศญี่ปุ่น ส่งตรงถึงรถยนต์ ทุกคัน และยังให้บริการดูแลรถแบบครบวงจร ในการปกป้อง ฟื้นฟูสภาพ บำรุง รักษาผิว สี และส่วนต่างๆ ของรถยนต์ด้วย

บริการหลังการขายที่มุ่งเน้นการดูแลรถทุกคัน และต้อนรับลูกค้าด้วย บริการระดับพรีเมียม ที่จะมอบประสบการณ์การดูแลรักษารถยนต์คันโปรด ทุกคันอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน และการรับประกันคุณภาพ ที่การันตีความ พึงพอใจ 100%

ทักษะช่างผู้ชำนาญงานมาตรฐานมืออาชีพ รับรองหลักสูตรโดย ThreeBond Japan ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์สูง ทั้งรถยุโรปและรถญี่ปุ่น มากว่า 10 ปี นอกจากนี้ อุปกรณ์ เครื่องมือที่ทันสมัย มั่นใจได้ว่าสามารถให้ บริการรถได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นโยบายการใช้น้ำยา 1 คันต่อ 1 ชุดน้ำยา มั่นใจได้ 100% ว่าคุณภาพ น้ำยาตรงตามมาตรฐานทุกคัน ไม่ผ่านการเปิดให้อากาศเข้าทำปฏิกิริยาทาง เคมีก่อนการใช้งาน

น้ำยา ThreeBond Standard

ปกป้องสีรถยนต์จากความซีดหมอง รังสี UVA/UVB ได้กว่า 75%

เพิ่มความหนาให้ชั้น Clear Lacqure บนพื้นผิวได้ถึง 6-8 ไมครอน

สวยใส เงางามยาวนาน ให้รถดูใหม่ตลอดเวลา

ล้างทำความสะอาด ดูแลง่ายดายเหมือนได้รถใหม่ทุกวัน

น้ำยา NE’X Premium

โมเลกุลระดับนาโน X4 ทำให้ ใส ฉ่ำ วาว

ปกป้องสีรถยนต์จากความซีดหมอง รังสี UVA/UVB ได้ถึง 85%

เพิ่มความหนาให้ชั้น Clear Lacqure บนพื้นผิวได้ถึง 9-10 ไมครอน

ความแข็ง ตามการทดลอง (Pencil Hardness Test) สูงถึง 9H

ยึดเกาะได้ดีเพราะมีโมเลกุลขนาดเล็กลง จึงสวย ใส ยาวนาน 2 เท่า

ล้างทำความสะอาด ดูแลง่ายดายเหมือนได้รถใหม่ทุกวัน

หลายท่านที่ออกรถยนต์มาใหม่ หรืออยากทำให้รถยนต์คันเก่าของคุณกลับมามีสีสดใสเงาฉ่ำเหมือนใหม่ เดี๋ยวนี้เป็นเรื่องที่ง่ายมากในการดูแลรักษาสีรถยนต์ของคุณให้เงาสวยฉ่ำ เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยิน เคลือบแก้ว แล้วมันคืออะไรละ มันต่างจากขัดเคลือบสีธรรมดาตรงไหน เคลือบแก้วแล้วดีไหม?

สำหรับท่านที่สนใจจะนำเอารถไปทำการ เคลือบแก้ว นอกจากจะต้องหาข้อมูลว่า ศูนย์บริการเคลือบแก้ว เจ้าไหนให้บริการได้ดีมีคุณภาพและมีบริการหลังการขายที่ดีแล้ว อีกเรื่องที่ควรทำความเข้าใจก็คือ เรื่องของ น้ำยาเคลือบแก้ว ที่เขาจะเอามาใช้กับรถเรานั้นมีคุณสมบัติเป็นอย่างไร?

เคลือบแก้ว คืออะไร ?

เคลือบแก้ว (Glass Coating) คือ การเคลือบชั้นผิวของสีรถเปรียบเสมือนกระจกใสที่มีคุณสมบัติแข็งและสามารถเพิ่มความหนาของพื้นผิวสีตัวถังรถยนต์บนชั้น Clear Lacquer จะมีระดับความหนาของชั้นเคลือบที่แตกต่างกัน มีตั้งแต่ระดับ 1-9 H โดยสารที่ใช้ในการทำเคลือบแก้วมักมีส่วนผสมของสาร Silica หรือ Polysilazane

แต่อย่าเข้าใจผิดว่า การเคลือบแก้วแล้วจะมีคุณสมบัติปกป้องดุจดั่งเพชร ชนก็ไม่บุบ เอาหินปาใส่รถสีก็ไม่ถลอก เพราะแท้จริงแล้วคุณสมบัติของการเคลือบแก้ว จะช่วยเพิ่มความหนาจากชั้นแลคเกอร์ในระดับ 3-5 ไมครอน และความแข็งระดับ 7-9 H (H มาจาก Hardness Scale เป็นค่าที่ใช้วัดความแข็ง) นั่นเองครับ

ทั้งนี้เนื่องจากมีน้ำยาอยู่หลายชนิดหลายยี่ห้อ มีส่วนผสมของสารที่ให้การปกป้องที่แตกต่างกันไปตามแต่สูตรของผู้ผลิต ดังนั้นจึงควรสอบถามผู้ประกอบการและตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะเคลือบแก้ว ผู้ที่จะใช้บริการควรศึกษาแพ็กเกจอย่างละเอียด ดูความน่าเชื่อถือของศูนย์ให้บริการ และต้องดูก่อนว่า ศูนย์บริการใช้วิธีเคลือบแก้วด้วยระบบใด ซึ่งในปัจจุบันนิยมลงน้ำยาหลักๆ อยู่ 2 รูปแบบคือ ระบบทา และระบบพ่น

ระบบทาด้วยมือ ข้อดีคือ ลงน้ำยาเคลือบแก้วได้เต็มที่ เคลือบได้หนา แต่มีข้อจำกัดในการทา อาจไม่ทั่วถึงทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะซอกเล็กๆ

ระบบพ่น ข้อดีคือ น้ำยาจะสามารถเข้าถึงได้ทุกซอกทุกมุม แต่จะอาจจะสิ้นเปลืองน้ำยามากกว่า และต้องใช้อุปกรณ์ในการพ่น

สิ่งที่หลายศูนย์บริการเคลือบแก้วมักจะเครมในเรื่องของตัว H ที่มีมักมีการระบุมาในเวลาที่เราจะไปทำ เคลือบแก้ว ซึ่งก็จะมีตั้งแต่ 6H-9H ที่ฮิตที่สุดและพูดถึงกันมากที่สุดปัจจุบันก็คงจะเป็น เคลือบแก้ว 9H ซึ่งบางท่านก็อาจจะสงสัยว่า เจ้าตัวเลขที่ตามด้วยตัว H นี่มันคืออะไร ทำไมต้องมีการนำมาอ้างถึงเสมอเมื่อเราจะไปรับบริการทำเคลือบแก้วรถยนต์ บางครั้งก็อยากให้ดูคำโฆษณาสักนิดหากอันไหนดูเกินจริง เช่น มีความแข็ง 10h แข็งกว่าเพชร หรือเคลือบแล้วกัน รอยได้ 100% แนะนำว่าท่านควรถอยกลับมาศึกษาข้อมูลก่อน เพราะแท้จริงแล้วระดับความแข็งที่นำมาอ้างสรรพคุณกัน ไม่ได้เป็นค่าความแข็งที่วัดตามความแข็งของแร่ (ตามมาตราโมส) แต่เป็นเพียงค่าการทดสอบตามแรงกดของดินสอเท่านั้นครับ

ฉะนั้นนอกจากเรื่องความแข็งแล้วยังต้องดูคุณสมบัติเรื่องการปกป้องสีจากแดดรึเปล่า? หรือเพียงแค่เคลือบชั้นผิวสีเฉยๆ ต้องสอบหาหรือค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสารที่ใช้ทำเคลือบแก้วว่าช่วยลดการเกิดรอยด่างบนสีตัวถังรถยนต์ที่อาจเกิดจากคราบมูลนก ยางไม้ หรือ ยางมะตอย ได้หรือไม่ ? และอีกสิ่งที่สำคัญในการเลือกเลยก็คือ “ความน่าเชื่อถือ” ก็เป็นสิ่งสำคัญอีกประการในการเลือกศูนย์บริการเคลือบแก้ว ดังนั้นเราจึงควรต้องพิจารณาดูเรื่องความมั่นคงของสถานที่ให้บริการว่าได้มาตรฐาน หรือน่าเชื่อถือหรือไม่ เพราะหากเกิดความเสียหายจะรับผิดชอบได้รึเปล่า หลังจากนั้นก็มาดูผลงานที่ผ่านมาว่าผู้ให้บริการเจ้านั่นๆ มีประสบการณ์มากแค่ไหน

ข้อดีของการเคลือบแก้ว (Glass Coating)

1. คงความเงางามของสีรถด้วยชั้นเคลือบแก้ว ที่เปรียบเสมือนกระจก

2. เคลือบแก้ว ช่วยทำหน้าที่เหมือนเกราะป้องกันแดด ช่วยให้สีรถจะคงทนและคงสภาพอยู่กับเราได้นานขึ้น

3. ป้องกันการเกิดรอยขนแมว รอยขีดข่วน ได้มากกว่าปกติ

4. ช่วยลดการเกิดรอยด่างบนสีตัวถังรถยนต์ที่อาจเกิดจากคราบมูลนก ยางไม้ หรือ ยางมะตอย

5. คุณสมบัติลื่นต่อน้ำทำให้คราบสกปรกต่าง ๆ ที่เกาะติดอยู่บนตัวถังถูกชำระด้วยน้ำฝนอย่างง่ายดาย และสามารถรักษาคุณสมบัตินี้ได้ยาวนาน

เคลือบแก้วที่ G2C ไม่ได้มีดีแค่น้ำยา ที่สำคัญคือความพิถีพิถัน ใส่ใจในทุกขั้นตอน เราเป็นศูนย์บริการเคลือบแก้วชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่นแท้ๆ ที่เหนือกว่าคู่แข่งด้วยนโยบายการรับประกัน ดูแลหลังการขายไม่ทอดทิ้ง พร้อมให้คำปรึกษาและบริการลูกค้าในเรื่องการดูแลรักษา

เราพร้อมให้บริการแล้วทั้ง 4 สาขา ได้แก่ สาขาดินแดง-วิภาวดี , สาขางามวงศ์วาน-พงษ์เพชร , สาขาสิรินธร-บางพลัด และสาขาน้องใหม่ สาขา ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ คุณสามารถเข้ารับบริการได้เลยทุกสาขา สะดวกที่ไหน ไปที่นั่นได้เลย เราพร้อมมอบประสบการณ์การล้างรถระดับพรีเมียมให้คุณได้สัมผัส การันตีด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง และดำเนินการโดยช่างมากประสบการณ์ ท่านจะได้ความประทับใจในการบริการอย่างแน่นอน

สนใจบริการ ทักไลน์สอบถามข้อมูลได้เลย!!